(HazTom)Trippin on you #1

trippin1

Maybe it’s your love, it’s too good to be true
Baby boy, your love, got me trippin’ on you

 

::…………………………………………………………………………………………::

::……………………………………………::

::…………………….::

 

Trippin on you

Paring : Harrison x Tom ft. Harry x Asa

 

Part one

 

 

 

ทอม ฮอลแลนด์ไม่เคยตกหลุมรัก

 

เขามั่นใจอย่างนั้นมาตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เพื่อนๆรอบตัวต่างพากันหายหน้าไปจากกลุ่มทีละคน หรือจะเป็นตอนจัดปาร์ตี้ย้อมใจเสียใหญ่โตตอนมีคนอกหัก เขาก็แค่หัวเราะ และร้องไห้ไปกับเพื่อน

 

“มันเป็นยังไงเหรอความรู้สึกแบบนั้น” หลังจากพูดจบ ก็พอจะจับความเสียงโห่ร้องแซวแทบไม่เป็นภาษาได้คร่าวๆ

 

ท่ามกลามผู้คนมากมาย เรากลับมองเห็นแค่เพียงคนคนเดียว..

 

 

เขาหลับตา ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งพร้อมกับลมที่พัดเอากลิ่นอายของมหาสมุทรเข้ามา ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าจัด ประกายแดดบนเกลียวคลื่นทำให้สีเข้มของน้ำดูอ่อนลงกว่าที่ควรจะเป็น.. ทุกองค์ประกอบรวมกันทำให้รู้สึกร้อนมากกว่าอบอุ่น

อยู่นานกว่านี้คงไม่ดีแน่..

ทั้งๆที่รู้ ทว่าทุกอย่างตรงหน้ามันสวยงาม เกินกว่าจะหันหลังจากไป

 

 

“ทอม..” เขาสะดุ้งเล็กๆเมื่อถูกดึงให้หลุดจากภวังค์ หันไปก็พบกับเจ้าน้องชายตัวแสบโบกมือเรียกสติให้กลับมาอยู่ตรงหน้า

“มีอะไร?”

“เรียกตั้งสามรอบแล้ว..”

“แฮร์รี่ คนนั้นใครน่ะ?” เขาตอบคำถามด้วยคำถาม เจ้าของชื่อเอี้ยวตัวกลับไปมองด้านหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นใครถึงได้ส่งเสียงในลำคอเบาๆ

“หืมม์? อ้อ แฮร์ริสัน นายแบบเพิ่งเข้าสังกัดมาใหม่” แฮร์รี่เลิกคิ้วเมื่อใบหน้าเรียบเฉยเมื่อครู่หันมายกยิ้มน้อยๆให้ทางนี้  และไม่ใช่ส่งมาให้เขาแน่นอน..

“บอกไว้ก่อนนะ อย่าไปยุ่งเชียว”

“ก็แค่ถามเฉยๆ” ทอมทำหน้าบูดเมื่อน้องชายส่ายศีรษะให้ราวกับไม่เชื่อ อีกทั้งยังกลับไปสนใจกล้องในมือแทนเป็นการจบบทสนทนากลายๆ

 

“แล้วทำไมถึงต้องห้ามยุ่ง?”

“บอกว่าห้ามก็ห้ามแล้วกัน”  รู้ทันสมกับเป็นแฮร์รี่

“นายมันไม่มีเหตุผล ฉันจะฟ้องแซม”

“โว้ย ทอม! ถ้ายังดื้อแบบนี้วันหลังฉันไม่พามาที่ทำงานแล้วนะ”

“เออๆ รู้แล้วก็ได้วะ ขู่จัง” พอถูกยื่นคำขาดถึงได้ยอมแพ้ ทิ้งตัวเอนหลังลงกับพนักเก้าอี้พลางถอนหายใจ

ไม่บ่อยนักที่คนอย่าง ทอม ฮอลแลนด์ จะสนใจใคร ใจหนึ่งก็นึกอยากจะเชื่อฟังเจ้าน้องชายที่นานๆจะออกความเห็นตรงๆอย่างนี้สักที อีกใจก็อยากจะพิสูจน์เรื่องที่ถูกปิดบัง

แต่เพียงเจ้าของภาพมหาสมุทรในห้วงความคิดเดินเฉียดผ่านไป กลิ่นอายทุกอย่างพลันหวนกลับมา ท่ามกลางความลังเล คำตอบก็ปรากฏขึ้นมาชัดเจน..

 

เช่นเดียวกันกับคนฉลาดอย่างแฮร์รี่ หลังจากวันนั้นมาเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปป้วนเปี้ยนแถวที่ทำงานเจ้าตัวอีก

 

 

“น่าเบื่อชะมัด”

แต่ก็อีกนั่นแหละ ทำได้แค่บ่น.. ทอมคิดกับตัวเองพลางโยนก้อนหินในมือเล่นคลายอารมณ์หงุดหงิดไปเรื่อยระหว่างทางกลับบ้าน เขาไม่มีทางหลุดมือกับการโยนรับโง่ๆแน่ เตรียมจะขว้างมันลงแม่น้ำเบื้องล่างสะพานที่ยืนอยู่ หากแต่เมื่อเหลือบไปเห็นใครคนที่อยู่ในความคิดเมื่อครู่ วัตถุในมือกลับร่วงลงไปบนพื้นอย่างง่ายดาย

ชิท!..

ทอมรีบละมือจากการแต่งผมจัดเสื้อผ้าตัวเองเมื่อพบว่ามันดูโง่เง่า หวังว่าจะทันก่อนดวงตาสีอ่อนคู่นั้นจะหันมาพอดี

 

“ไง เจอกันอีกแล้วนะ..”

“ไง..” จบคำทักทายเขาก็ได้แต่ยืนนิ่งราวกับถูกสาปอย่างนั้น พยายามห้ามตัวเองไม่ให้จ้องคนตรงหน้ามากเกินไปจนผิดสังเกต แฮร์ริสันดูดีเหมือนเคย เส้นผมสีบลอนด์เข้ม กับแจ็คเก็ตสีแดงแบบเดียวกับท้องฟ้ายามเย็นตอนนี้ ทุกอย่างดูลงตัวเข้ากันหมด มองเห็นทีมงาน และอุปกรณ์ต่างๆเบื้องหลังก็เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าตัวมาทำอะไร และราวกับเพิ่งนึกออก ทอมรีบชะเง้อมองคนในกองนั้นไวๆ หากแต่ไม่พ้นสายตาแฮร์ริสันที่หลุดหัวเราะออกมาทันที

“ไม่ต้องเป็นห่วง นี่คนละงานกัน ไม่มีน้องชายนายอยู่ในนั้นแน่นอน”

“คุณรู้..” ทำได้เพียงยิ้มแห้งๆออกไปด้วยไม่รู้ว่าน้องชายตัวแสบไปพูดอะไรไว้บ้าง อีกฝ่ายเพียงแต่ยักไหล่แทนคำตอบ

“เขาไม่ได้ทำอะไรหรอก จริงๆเขาดูมีเรื่องอยากคุยกับทุกคน ยกเว้นฉัน”

 

“อย่าคิดมากนะ ฉันสนใจเรื่องนายมากกว่า” ฝ่ามือใหญ่แตะลงบนหัวไหล่เบาบาง และรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มจะทำหน้าเจื่อน ปรับอารมณ์ไม่ถูกว่าควรใส่ใจความร้อนวูบบนบริเวณที่เพิ่งถูกสัมผัส หรือท้ายประโยคกำกวมนั่นดี

“เรื่องผม..?”

แฮร์ริสันเปรยยิ้ม แต่ยังไม่ทันได้กล่าวอะไร เสียงร้องเรียกไกลๆจากทีมงานก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน

“โทษที ต้องไปแล้ว” ทอมพยักหน้ารับ เตรียมจะเดินจากไปเช่นกัน ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายยื่นมือมาให้ตรงหน้า

“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ทอม ฮอลแลนด์”

“แฮร์รี่บอกชื่อผมกับคุณงั้นเหรอ” เขาขมวดคิ้ว เหมือนเคยที่ได้รับเพียงเสียงหัวเราะกลับมา นึกดีใจที่ชีพจรของคนไม่ได้อยู่บนฝ่ามือ ไม่อย่างนั้นคงได้รู้แน่ว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขนาดไหน

 

“ฉันคงถ่ายแบบแถวนี้หลายวัน.. หวังว่าเราจะบังเอิญได้เจอกันอีกนะ ทอม..”

 

.

.

 

ทอม ฮอลแลนด์ไม่ใช่คนโง่

เขารู้ดีว่าหากพลาดพลั้งเพียงนิดเดียวคงถูกเกลียวคลื่นหมุนซัดจมหายไปตลอดกาล.. การตกหลุมรักคนอย่างแฮร์ริสันมันอันตรายเกินไป.. แต่ละประโยคของน้องชายถูกนำเอามาย้ำเตือนตัวเองไม่ให้ก้าวล้ำไปมากกว่าที่ควรจะเป็น

 

เขาไม่ได้ไปหาแฮร์ริสัน.. แม้ในหัวจะฉายภาพตัวเองเดินไปยังสถานที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า..

ก็แค่ไม่เริ่ม.. ก็แค่กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม..

ปลายนิ้วกดเปลี่ยนเพลย์ลิสต์ไปเรื่อย หลีกเลี่ยงบรรดาเพลงรักประโลมโลกที่จำไม่ได้ว่ามาอยู่ในเพลย์ลิสต์ขนาดนี้เมื่อไหร่ จนกระทั่งเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นให้ต้องลุกขึ้นมาชะโงกดูจากหน้าต่างห้องนอน

 

พระเจ้า! นั่นแฮร์ริสัน

 

ความคิดแรกคือปิดหน้าต่างแล้วกลับไปนอนโง่ๆเหมือนเดิมซะ.. แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟังเอาเสียเลย.. เขาพาตัวเองมาถึงด้านล่างทั้งที่คำสั่งนั้นยังดังก้องในหัว และพลันหายไปเมื่อเปิดประตูไปพบกับดวงตาคู่เดิม พร้อมทั้งรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมาหลายวัน

 

“เฮ้..” กล่าวทักทั้งที่สติยังมาไม่ครบดีนัก

“ขอโทษที่รบกวน พอดีฉันมาเอาแจ็คเก็ตที่เอซ่าฝากเอาไว้”

“เอซ่าน่ะเหรอ?” นึกภาพไปถึง ‘คนสนิท’ ของแฮร์รี่.. พวกเขาไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ ด้วยดูเจ้าตัวออกจะเป็นคนเงียบๆ ยิ่งมาไหว้วานอะไรแบบนี้ดูอย่างไรก็ชวนให้สงสัยอยู่ไม่น้อย

“ใช่ ที่จริงหมอนั่นยืมไป และฉันต้องใช้ทำงานพรุ่งนี้น่ะ ฝากดูให้ทีได้มั้ย?”

“รออยู่ตรงนี้แล้วกัน” เขารับคำแต่โดยดี.. เก็บคำถามมากมายเอาไว้ตั้งแต่เดินไปบนห้องแฮร์รี่ หยิบเอาแจ็คเก็ตตัวปัญหานั้นมาส่งคืนเจ้าของมัน

 

เงียบ..

 

บรรยากาศตอนนี้ชวนให้อึดอัดแทบบ้า อีกฝ่ายเล่นยืมยิ้มจ้องเขาไม่กระพริบจนไม่รู้จะเอาตาไปวางไว้ตรงไหน ครั้นจะบอกว่าหมดธุระแล้วก็รีบกลับไปเสียทีก็ไม่กล้า

 

“เดี๋ยวนี้ไม่เห็นนายเดินไปแถวนั้นเลยนะ” ไม่ต้องขยายความคำว่า ‘แถวนั้น’ ก็รู้ดีว่ามันหมายถึงที่ใด ในหัวหาข้ออ้างสารพัดมาข่มใจที่กำลังโลดแล่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ก็ไม่ได้ไปบ่อย”

“นึกว่าโดนน้องชายขังเอาไว้ในบ้านเสียอีก”

“คุณอย่าว่าแฮร์รี่แบบนั้นเลย จริงๆแล้ว..”

“โอ้ อย่าเข้าใจผิดสิ ฉันแค่หยอกเล่น” การถูกตัดบทพร้อมกับหัวเราะออกมาแบบนั้น สำหรับเขามันไม่ตลกเลยสักนิด ทอมเม้มปาก เตรียมจะพูดอะไรต่อแต่ก็ถูกขัดขึ้นมาเสียก่อน

“พี่ชายคนโตออกจากบ้านไปเรียนต่อเป็นปีๆ พอได้กลับมาก็ต้องคิดถึง และเป็นห่วงมากเป็นธรรมดา”

“คุณนี่มัน..ผมควรกลัวมั้ยเนี่ย?”

แฮร์ริสันยักไหล่ “นี่คือทั้งหมดที่ฉันรู้ ที่เหลือต้องให้นายบอกแล้วล่ะ”

“แต่คุณรู้จักบ้านผม”

“ฉันแค่เคยมาส่งเอซ่า”

เขาสูดหายใจลึก โกยอากาศเข้าปอด การสนทนากันกับผู้ชายคนนี้ดูจะใช้พลังงานมากเหลือเกิน ทุกการกระทำสะท้อนผ่านนัยน์ตาสีสวยราวกับกำลังโดนจับผิด ไม่ต่างจากเขา..

 

“จริงๆฉันก็แค่อยากรู้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชาย.. นายจะมาหาฉันมั้ย?”

 

ตอนนี้แหละที่โดนคลื่นซัดใส่เข้าอย่างจัง.. ทั้งโลกหมุนคว้าง คำที่ท่องจำขึ้นใจเอาไว้ว่าจะไม่ก้าวเข้าไปจมหายไปพร้อมๆกัน

ไม่มีเวลาให้เงยหน้าขึ้นจากผิวน้ำ เสียงรถยนต์เคลื่อนตัวใกล้เข้ามา เหลือบมองเพียงแว่บเดียวก็รู้ว่ามันเป็นของใคร..

แฮร์รี่..

 

“ถ้านายไม่ได้คิดอย่างนั้น ก็แค่เดินกลับเข้าไป..” แฮร์ริสันเหลือบมองทางสุดถนน หยุดลงที่เขา ก่อนจะเดินกลับไปที่ฝั่งคนขับราวกับเป็นเรื่องง่ายดาย..

 

เมื่อก้าวขึ้นไปบนรถคันนั้นแล้ว ทุกอย่างจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เช่นเดียวกันกับการเดินถอยหลัง..

ทั้งเหตุผล และความรู้สึกตีกันมั่วจนไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำ.. เขาเกลียดตรงอีกฝ่ายทำเหมือนกับทุกสิ่งที่ทำกับเขาเป็นเรื่องง่าย พอๆกับเกลียดตรงตัวเองทำให้เป็นเรื่องยาก

มันมากเกินไป จนขาวโพลนไปหมด..

 

และถ้าหากเขา คิดจะทำอะไรที่มันสับสนวุ่นวายตอนนี้ให้ง่ายลงบ้างสักครั้ง จะเป็นอะไรมั้ยนะ..?

 

เสียงประตูฝั่งคนนั่งปิดลงพร้อมๆกับรถที่ออกสตาร์ท เขาเห็นแฮร์ริสันยิ้มหลายครั้ง หากแต่คราวนี้ดูต่างออกไปจนไม่กล้าแม้แต่จะมองตรงๆ

ทิวทัศน์ของเมืองลอนดอนผ่านสายตาไปเรื่อยๆ เขาไม่ได้สนใจจุดหมายปลายทางเลยสักนิด ปล่อยให้เสียงเพลงเอื่อยๆจากวิทยุดังกลบความเงียบอยู่นานโข ถึงจะยอมเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน

 

“คุณทำแบบนี้กับทุกคนอย่างนั้นเหรอ?”

“ไม่รู้สิ”

 

“แต่อยากทำแบบนี้กับนาย..”

 

เป็นอีกครั้งที่คิดว่าไม่น่าถามออกไปเลย ถ้าทั้งใจถูกเหวี่ยงซ้ำจนไม่รู้ว่าอยู่ที่ใดแบบนี้..

มือใหญ่เอื้อมมาสัมผัสเส้นผมแผ่วเบา โคลงศีรษะเขาเหมือนเล่นกับเด็ก เขาหันกลับไปเพ่งมองด้านนอกกระจก ทั้งที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ..

 

แบบนี้มันแย่กว่าที่คิดเสียอีก.. สมองสั่งการมาแบบนั้น ขณะที่หัวใจกำลังพองโต

 

 

TBC

 

TALK : หลังจากที่เวิ่นในทวิตมาซักพัก สุดท้ายก็ออกมาเป็นเรื่องเป็นราว ที่เอาลงนี่อาจจะเห็นในทวิตแล้วซะส่วนมาก แต่เดี๋ยวตอนหน้าๆ จะเป็นแบบที่ยังไม่ได้เอาลงค่ะ แต่ๆออกตัวก่อนว่าไม่เคยเขียนอะไรมากกว่า1ตอนจบเลย😂 แต่จะพยายามเต็มที่ อยู่ด้วยกันก่อนนะคะ❤️

6 thoughts on “(HazTom)Trippin on you #1

  1. ขอบคุณสำหรับฟิคคู่นี้นะคะ รักคู่นี้มาก ฟิคก็มีน้อยมากเช่นกัน ช่วงนี้แฮซเสน่ห์แพรวพราวมาก เรายังหลงเลยค่ะ น้องทอมจะไม่หลงได้ไง เป็นกำลังใจให้ไรท์เขียนต่อไปเรื่อยๆนะคะ

    Liked by 1 person

  2. เป็นฟิคที่มีเสน่ห์จังทั้งบทสนทนาทั้งคาแรคเตอร์ทั้งภาษา ชอบจัง
    ขอบคุณที่แต่งฟิคคู่นี้นะคะ เพิ่งชิปไม่นานหาฟิคอ่านหลายวันแล้วกำลังจะลงแดง ขอบคุณไรต์มากๆ

    Liked by 1 person

Leave a comment